ปรับโครงสร้างหนี้ เสียประวัติไหม เครดิตเสียกี่ปี แก้ยังไงดี?
36 จำนวนผู้เข้าชม |
หลายคนที่เริ่มมีปัญหาในการผ่อนหนี้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือแม้แต่หนี้บ้าน อาจเริ่มได้ยินคำแนะนำว่า ลองไปปรับโครงสร้างหนี้ดูสิ แต่เราก็เชื่อว่ายังแอบลังเล... กลัวจะเสียเครดิต เสียประวัติ กลัวกู้ไม่ได้อีก แล้วถ้าเครดิตเสียไปแล้ว ต้องรอกี่ปีถึงจะกลับมาสะอาดใสเหมือนเดิม?
มันนี่ฮับ จะพาไปไขข้อข้องใจแบบเข้าใจง่าย พร้อมแนะแนวทาง แก้หนี้แบบมือโปร ให้คุณได้หายใจคล่องขึ้นอีกครั้ง พร้อมแนะนำที่จะช่วยคุณผ่านวิกฤตนี้อย่างมั่นใจ
ปรับโครงสร้างหนี้ คืออะไร
ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจคำนี้กันก่อน ปรับโครงสร้างหนี้ คือการเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้ เช่น ยืดระยะเวลาผ่อน ลดค่างวดต่อเดือน ลดดอกเบี้ย หรือรวมหนี้เป็นก้อนเดียว เพื่อให้สามารถจ่ายหนี้ได้ง่ายขึ้น พูดง่าย ๆ คือ ถ้าคุณรู้ตัวว่าเริ่มหมุนเงินไม่ทัน ไม่อยากผิดนัด แต่จ่ายขั้นต่ำก็ไม่ไหวแล้ว การปรับโครงสร้างหนี้คือทางออกที่ดีกว่าการ ปล่อยให้เน่าค้างไปเลย
ปรับโครงสร้างหนี้ เสียเครดิตเลยไหม?
หลายคนเข้าใจผิดว่า แค่ปรับโครงสร้างหนี้เมื่อไหร่ เท่ากับเครดิตพังทันที
ความจริงคือ... ไม่จำเป็นต้องเสียเครดิตเสมอไป ขึ้นอยู่กับ ช่วงเวลา ที่คุณไปปรับ
กรณีที่ 1 ปรับก่อนผิดนัด
หากคุณยังไม่ผิดนัดชำระ แต่อยากขอปรับโครงสร้างหนี้ก่อนที่จะเริ่มจ่ายไม่ไหวเลย แบบนี้ถือว่าเป็นลูกหนี้ชั้นดี
ธนาคารหรือสถาบันการเงินมองว่า คุณรับผิดชอบ และการบันทึกข้อมูลในเครดิตบูโรจะยังไม่แสดงว่าเป็นลูกหนี้มีปัญหา
กรณีที่ 2 ปรับหลังผิดนัด
หากคุณผิดนัดชำระแล้ว ค้างชำระหลายเดือน ค่อยขอปรับ แบบนี้เครดิตเสียแน่นอน
ข้อมูลจะถูกบันทึกว่าเคยผิดนัด ซึ่งจะมีผลต่อการยื่นกู้ในอนาคต
แต่ถึงอย่างไร ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำอะไร เพราะการปรับจะหยุดการเพิ่มดอกเบี้ยผิดนัด และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูประวัติได้ในอนาคต
เครดิตเสีย อยู่ในระบบกี่ปี?
นี่คือคำถามยอดฮิต และคำตอบคือ...
เครดิตบูโรจะเก็บข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี นับจากวันที่หนี้หมด
เช่น ถ้าคุณผิดนัดชำระบัตรเครดิต และปิดหนี้เรียบร้อยในเดือน ก.ค. 2568 ประวัติจะยังคงอยู่ในระบบจนถึงเดือน ก.ค. 2571
หลังจากนั้นระบบจะล้างข้อมูล และคุณจะกลับมามีเครดิตสะอาดได้อีกครั้ง แต่... ข้อมูลการปรับโครงสร้างหนี้ (หากเป็นประเภท “ลูกหนี้มีปัญหา”) ก็จะอยู่ในระบบนี้เช่นกัน
ถ้าเครดิตเสียไปแล้ว จะแก้ยังไงดี
อย่าตกใจ หรือหมดหวังไป ถึงเครดิตจะเคยเสีย ก็ยังสามารถฟื้นคืนได้ ถ้าคุณมีแผนจัดการที่ดีและมีวินัยแค่ทำตามวิธีต่อไปนี้
- จ่ายหนี้ที่มีอยู่ให้ตรงเวลา ถ้าคุณยังมีบัญชีอื่นที่ยังจ่ายอยู่ ให้เน้น รักษาเครดิตที่เหลือไว้ให้ดีที่สุด
- ปิดหนี้ที่ค้างอยู่ พยายามชำระหนี้ค้างชำระให้หมด หรืออย่างน้อยก็ขอปรับโครงสร้างเพื่อหยุดดอกเบี้ยและวางแผนจ่าย
- เริ่มสร้างประวัติใหม่ เมื่อปิดหนี้หมดแล้ว ลองเริ่มใหม่จากผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ไม่เข้มงวด เช่น บัตรเติมเงิน หรือ สินเชื่อรายย่อยที่ไม่เช็กเครดิตบูโร เมื่อคุณจ่ายตรงเวลา ระบบก็จะเริ่มบันทึกประวัติใหม่ในทางที่ดีขึ้น
- รอเวลา อย่างที่บอกไป ข้อมูลจะอยู่ในระบบ 3 ปี นับจากวันที่ปิดหนี้ อดทน ตั้งใจ และใช้เวลานี้ฟื้นความน่าเชื่อถือไปพร้อมกัน
ปรับโครงสร้างหนี้ เหมาะกับใครบ้าง?
ถ้าคุณเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ นี่อาจเป็นเวลาที่ควร นั่งลงคิดและคุยกับเจ้าหนี้ ได้แล้ว
- รายรับไม่พอกับรายจ่าย
- เริ่มจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตทุกเดือน
- เริ่มจ่ายหนี้บางตัวไม่ไหว หรือขอเลื่อนทุกเดือน
- เริ่มหยิบยืมเงินเพื่อหมุนหนี้อีกก้อนหนึ่ง
- นอนไม่หลับเพราะกลัวเบอร์โทรจากเจ้าหนี้
ถ้ามีมากกว่า 2 ข้อขึ้นไป แนะนำให้เริ่มปรึกษาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้โดยด่วนก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิด
ปรับโครงสร้างหนี้เอง กับ ใช้บริการ ช่วยเจรจา แบบไหนดีกว่า
ทำเอง ถ้ามีเวลาว่างพอ ใจแข็ง เจรจาเป็น ก็ลองได้
- โทรหาเจ้าหนี้ ขอเจรจาลดดอก/เปลี่ยนงวด
- ส่งเอกสารประกอบ เช่น สลิปเงินเดือน บัญชีธนาคาร ฯลฯ
ใช้บริการช่วยเจรจา: สำหรับคนไม่มีเวลา หรือกลัวสื่อสารผิด
- บริษัทที่เชี่ยวชาญจะช่วยคุณพูดคุยกับเจ้าหนี้
- บางที่มีระบบช่วยประเมินแผนการชำระให้เหมาะกับรายได้
- ลดความเครียด ลดโอกาสโดนปฏิเส
บทส่งท้าย ฟื้นเครดิต ฟื้นชีวิต ไปกับมันนี่ฮับ
หากคุณกำลังรู้สึกว่าหนี้ท่วมหัว ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน มันนี่ฮับ ขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยคุณออกจากวงจรหนี้อย่างมีระบบ มันนี่ฮับ ให้บริการสินเชื่อและช่วยวางแผนการเงิน ด้วยแนวคิด เข้าใจมนุษย์เงินเดือน ไม่ว่าคุณจะต้องการรวมหนี้ รีไฟแนนซ์ หรือขอคำปรึกษาด้านการจัดการหนี้ เรามีทีมงานที่พร้อมช่วยคุณปรับโครงสร้างหนี้อย่างมืออาชีพ เพราะทุกปัญหามีทางออก และทุกคนมีโอกาสเริ่มต้นใหม่ได้ เริ่มวันนี้ กับมันนี่ฮับ... หายใจโล่งขึ้นในทุกวัน
