62 จำนวนผู้เข้าชม |
คุณอาจเคยได้ยินประโยคขู่ ๆ ว่า ระวังนะ ถ้าไม่จ่ายหนี้ เดี๋ยวยึดบ้าน ยึดรถ ยึดบัญชีหมด ฟังดูน่ากลัวเหมือนในละคร แต่มาดูกันให้ชัดว่าในโลกจริง “เป็นหนี้โดนยึดทรัพย์” ต้องถึงขั้นไหนถึงจะเกิดขึ้นได้จริง? แล้วเจ้าหนี้มีสิทธิมายึดเงินเดือนเราตอนไหนอย่าเพิ่งตกใจ เราจะพาคุณไปไล่เรียงแบบเข้าใจง่าย อ่านสนุก แต่ได้สาระครบ
ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่า หนี้ที่อาจนำไปสู่การยึดทรัพย์นั้น ไม่ใช่หนี้ทุกประเภท และไม่ใช่หนี้ทุกจำนวน
ต้องเป็นหนี้ที่ฟ้องร้องแล้วเท่านั้น การยึดทรัพย์จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเจ้าหนี้ฟ้องร้องลูกหนี้ผ่านศาล และศาลมีคำพิพากษาให้ลูกหนี้ชำระหนี้แล้วลูกหนี้ยังไม่ชำระตามคำพิพากษา พูดง่าย ๆ คือ ถ้าคุณยังแค่ ค้างจ่าย โดยยังไม่ถูกฟ้อง เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิมายึดบ้าน ยึดรถ ยึดบัญชีอะไรคุณได้เลย
ไม่ใช่หนี้ 100 บาทก็ยึด ไม่มีขั้นต่ำชัดเจนในกฎหมาย แต่โดยทั่วไป หากเป็นหนี้จำนวนไม่มาก เช่นหลักพัน เจ้าหนี้มักไม่คุ้มค่าที่จะฟ้อง เพราะค่าทนาย ค่าใช้จ่ายศาล อาจสูงกว่าหนี้เสียอีก แต่ถ้าหนี้หลักหมื่นถึงหลักแสนขึ้นไป โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือเงินกู้ที่มีสัญญาแน่นอน แบบนี้มีโอกาสโดนฟ้องและตามมาด้วยการยึดทรัพย์สูง
ทรัพย์สินที่สามารถโดนยึดมีดังนี้
ทรัพย์ที่ไม่สามารถยึดได้ เช่น
คำตอบคือ... ได้ แต่ต้องผ่านศาลเช่นกัน!
หลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้ว หากลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินที่สามารถยึดได้ เจ้าหนี้สามารถขอศาลให้อายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย
กฎหมายแรงงานไทยได้กำหนดไว้ว่า สามารถอายัดได้ไม่เกิน 30% ของรายได้สุทธิ แต่ถ้ามีการหักค่าบำเหน็จบำนาญหรือหนี้สินอื่นร่วมด้วย การอายัดทั้งหมดต้องไม่เกิน 50% ของรายได้สุทธิ
ตัวอย่าง
หากคุณมีเงินเดือนสุทธิ 20,000 บาท เจ้าหนี้สามารถอายัดได้ไม่เกิน 6,000 บาทต่อเดือน (30%)
หากคุณถูกอายัดเงินเดือนและมีการชำระหนี้ตามคำสั่งศาล เจ้าหนี้จะไม่สามารถฟ้องซ้ำในคดีเดียวกันได้ แต่หากคุณหยุดส่ง หรือเปลี่ยนงานโดยไม่แจ้ง ศาลสามารถออกหมายเรียกเพื่อสอบถามทรัพย์ใหม่ และอาจนำไปสู่การยึดทรัพย์อื่น ๆ ได้อีกเช่นกัน
มันนี่ฮับ คือแอพพิลเคชั่นที่บริการทางการเงินที่ให้คุณเข้าถึงสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างปลอดภัย ถูกกฎหมาย และไม่มีค่าใช้จ่ายในการขอสินเชื่อ
คุณสามารถ