การเตรียมตัวเพื่อยื่นขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ฉบับครอบคลุม

    รถยนต์ได้กลายมาเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ นอกเหนือไปจากปัจจัยหลักที่เราท่องกันมาตั้งแต่เด็ก เป็นพาหนะที่พาเราไปไหนต่อไหนมอบความอิสระ พาเราไปทุกที่ที่เราต้องการรวมทั้งเป็นสิ่งที่ช่วยในการทำมาหากิน อยากจะขายอะไร ขนอะไร กระโดดขึ้นรถไปได้เลย และถ้าจำเป็นรถยนต์ของเราก็สามารถเสกเป็นเงินเพื่อใช้จ่ายหมุนเวียนได้เช่นเดียวกัน หากพบว่าตัวเราเองกำลังต้องการเงินสดเพิ่มไม่ว่าจะเป็นวัตถุประสงค์ใดๆก็ตาม การใช้ทะเบียนรถตัวเองมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อนี่แหละที่จะเป็นทางเลือกที่ง่าย และใกล้ตัวมากที่สุด ซึ่งสินเชื่อแบบนี้จะเป็นการใช้เพียงทะเบียนรถเพื่อเป็นหลักประกัน โดยเรายังสามารถนำรถมาใช้งานได้ตามปกติ ไม่ต้องใช้ตัวรถมาเป็นหลักค้ำประกัน ซึ่งจะทำให้เราเสียโอกาสไปหลายๆอย่าง 

สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์คืออะไร แตกต่างจากสินเชื่อทั่วไป หรือสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างไร

    การขอสินเชื่อทะเบียนรถ คือ การนำรถที่เราเป็นผู้ถือกรรมสิทธ์ มาขอสินเชื่อกับสถาบันทางการเงินต่างๆ หรือผู้ประกอบการที่ให้บริการ โดยไม่จำเป็นต้องนำรถไปจอดทิ้งไว้ หลังจากอนุมัติผ่านไปแล้ว เราก็จะได้เงินสดมา เรายังสามารถครอบครองและมีสิทธิใช้งานรถได้ตามปกติ ไม่ต้องจอดจำนำเอาไว้ เรียกได้ว่า เป็นมิติใหม่ของการจำนำรถก็ว่าได้ และคำว่าจำนำทะเบียนรถ ก็ไม่ได้หมายความว่า จะต้องแกะเอาทะเบียนรถไปใช้เป็นหลักประกัน แต่จะหมายความว่า เป็นคู่มือหรือสมุดที่กรมการขนส่งออกให้

    ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อเอนกประสงค์ เป็นสินเชื่อที่ผู้ขอกู้สามารถกู้เงินไปใช้ในวัตถุประสงค์อะไรก็ได้ จะนำไปใช้จ่ายฉุกเฉิน ขยายกิจการ โดยจะมีทั้งแบบที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยก็จะแตกต่างกันไป

สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ มีกี่แบบ

   จะกู้เงิน ทำไมต้องวุ่นวายกันมากมาย มีรถคันเดียวก็กู้ได้แล้ว ต้องบอกว่ารถยนต์นั้น สามารถพาเราไปไหนต่อไหนก็ได้ แต่ก็เปลี่ยนมือกันได้ไม่ยากเช่นกัน ดังนั้น การขอสินเชื่อประเภทนี้ก็จะต้องมีรูปแบบที่พิเศษกว่าสินเชื่อประเภทอื่นๆ เรามาดูกันว่า สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ แบ่งออกเป็นกี่อย่าง

1. การจำนำแบบโอนเล่ม การโอนเล่มถือว่าเป็นประเด็นสำคัญเลยสำหรับการทำสินเชื่อทะเบียนรถในยุคนี้ ส่วนมากแล้วจะเลือกได้ว่าจะโอนเล่มกับไม่โอนเล่ม และเราจะพูดถึงการจำนำทะเบียนรถแบบโอนเล่มกันก่อน ซึ่งรูปแบบนี้จะเป็นการโอนให้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เราขอสินเชื่อ ซึ่งจะมีข้อดีคือเราจะได้วงเงินที่สูงกว่าสินเชื่ออีกรูปแบบดอกเบี้ยก็ยังถูกกว่าด้วย
2. การจำนำแบบไม่โอนเล่ม จะเป็นการฝากทะเบียนรถไว้ที่สถาบันการเงินไว้เฉยๆ โดยไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ ถือว่าเป็นคำกำจัดความของเงินด่วนติดล้ออย่างแท้จริงเพราะสามารถอนุมัติได้เร็วกว่าเพราะไม่ต้องโอน และไม่ต้องแบกภาษี 7 % อีก แต่ถ้าดูว่าวงเงินน้อยสักหน่อยก็อาจจะย้อนกลับไปดูแบบแรก วิธีเตรียมตัวเพื่อยื่นขอสินเชื่อให้ผ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็น่าจะมีความเข้าใจอยู่บ้างกับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ ใครที่ยังระแวงอยู่ว่าจะต้องจอดรถไว้กับผู้ที่รับจำนำก็คลายใจกันได้เพราะเราไม่ต้องใช้ทรัพย์สินอันมีค่าของเราเป็นหลักประกัน

วิธีเตรียมตัวสำหรับการขอสินเชื่อ

1. สำรวจตัวเองว่าเราจะจัดสรรเงินรายได้ของเราในชำระคืนเงินสินเชื่อได้ประมาณไหนโดยต้องบวกลบคูณหารกันให้ดีระหว่างหนี้สินอื่นๆ กับรายได้ โดยส่งสินเชื่อรวมทั้งดอกเบี้ย ว่าไปไหวไหม ไม่แนะนำว่าถ้าหากคำนวณแล้วไม่ไหวก็ไม่ควรจะขยายงบประมาณออกไปโดยการมองหาแหล่งเงินทุนอื่น
2. มองหาตัวเลือกที่ดี ตรงนี้ค่อนข้างสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งเงินกู้ ไฟแนนซ์ ธนาคารต่างๆต่างก็มีนโยบาย บริการที่แตกต่างกัน บางแห่งอาจจะเสนอดอกเบี้ยที่ถูกกว่าบางเจ้าอาจจะเลือกระยะการชำระเงินที่นานเป็นพิเศษ ก็ต้องดูกันก่อนว่าโจทย์ของเรานั้นเป็นแบบไหนบ้าง แนะนำสำหรับปัจจัยขั้นแรกคือ การเลือกสถาบันการเงินที่เสนอดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับตัวเอง
3. เตรียมเอกสารให้พร้อม ปกติแล้วทางแหล่งสินเชื่อจะมีการระบุไว้อยู่แล้วว่าจะต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะต้องเตรียมมาแบบเบ็ดเสร็จกันทุกคนอยู่แล้ว จะมีเพียงบางรายเท่านั้นที่อาจจะมีการเรียกเอกสารเพิ่มเติม
4. ยื่นกู้แล้วรอลุ้นได้เลย ว่าจะอนุมัติหรือไม่ ส่วนมากแล้วทางฝ่ายประเมินของบริษัทโดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน ว่าจะผ่านหรือไม่
5. ถ้าหากผ่านก็เตรียมตัวทำสัญญาได้เลย แต่ถ้าไม่ผ่าน ก็ต้องย้อนมาดูที่ข้อ 1 กันใหม่ ยื่นเอกสารครบถ้วนหรือไม่ ไม่ได้เช็คเครดิตบูโรของตัวเอง หรือประวัติการเงินที่ไม่ดีถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องมาตรวจเช็คกันอีกรอบ
   
   

    ดังนั้น ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ใครเล่าจะหลีกเลี่ยงกันได้กับภาวะฝืดเคือง แน่นอนว่า การมีรถสักคันก็จะหมายถึงความคล่องตัวในการเดินทางและเป็นพาหนะในการทำมาหากิน แต่ถ้าจำเป็นก็อาจจะต้องย้ายทะเบียนรถจากตัวเองไปอยู่ในการครอบครองของผู้ประกอบการให้สินเชื่อ ซึ่งก็มีทั้งสองรูปแบบอย่างที่กล่าวไปแล้ว เป็นทางออกของคนที่ต้องการใช้เงิน แต่ไม่อยากจะไปเสี่ยงกับเงินนอกระบบที่ดอกแพงหูฉีกและยังต้องแบกความเสี่ยงแบบอื่นๆอีก เพียงแค่มีรถเป็นของตัวเองก็เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่ายๆ โดยที่เรายังใช้รถในการทำงานทำธุรกิจต่างๆ ได้เหมือนเดิม