เวลาที่เรากู้สินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อรถยนต์ ก็มักจะได้ยินคำว่า โปะสินเชื่อ และ ทยอยจ่าย อยู่บ่อย ๆ แต่จริง ๆ แล้วมันคืออะไร แตกต่างกันยังไง? และถ้าเราจ่ายค่างวดไม่ครบตามที่กำหนด จะมีผลเสียอะไรตามมาหรือเปล่า
วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเรื่องนี้กันแบบเข้าใจง่าย ๆ พร้อมคำแนะนำดี ๆ สำหรับคนที่กำลังวางแผน กู้สินเชื่อ หรือกำลังมีหนี้สินอยู่แล้ว
โปะสินเชื่อ คืออะไร
โปะสินเชื่อ หมายถึงการจ่ายเงินเพิ่มกว่าค่างวดปกติที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน เพื่อปิดยอดหนี้ให้เร็วขึ้น หรือเพื่อให้ดอกเบี้ยรวมลดลง
ตัวอย่างเช่น ถ้าค่างวดที่ต้องจ่ายเดือนละ 5,000 บาท แต่คุณสามารถจ่ายเพิ่มเป็น 7,000 บาท นั่นคือการโปะสินเชื่อ 2,000 บาท
ข้อดีของการโปะสินเชื่อ
- ช่วยลดจำนวนเงินต้นที่ต้องจ่าย ทำให้ดอกเบี้ยในระยะยาวลดลง เพราะดอกเบี้ย
- คำนวณจากยอดเงินต้นคงเหลือ
- ปิดหนี้ได้เร็วขึ้น ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ หลายปี
- สร้างความสบายใจเพราะหนี้หมดเร็วขึ้น
- หากมีเงินก้อน หรือรายได้เพิ่มขึ้น การโปะสินเชื่อช่วยจัดการหนี้ให้เบาลงได้
ทยอยจ่าย คืออะไร
ทยอยจ่าย หมายถึงการจ่ายเงินค่างวดตามที่กำหนดทุกเดือนในจำนวนที่เท่ากันตามสัญญา เช่น 5,000 บาททุกเดือน
โดยทั่วไปแล้วการทยอยจ่ายจะทำให้คุณชำระหนี้ครบตามจำนวนในสัญญาที่กำหนดไว้ โดยไม่ได้จ่ายเพิ่มหรือโปะก่อน
ข้อดีของการทยอยจ่าย
- ง่ายและชัดเจน รู้ว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ทุกเดือน
- ไม่ต้องวางแผนเรื่องเงินพิเศษหรือกังวลว่าจะโปะได้ไหม
- เหมาะกับคนที่ต้องการวางแผนการเงินอย่างสม่ำเสมอ
โปะสินเชื่อกับทยอยจ่าย ต่างกันยังไง

สรุปง่าย ๆ คือ ถ้าคุณอยากลดดอกเบี้ยและปิดหนี้ให้ไวขึ้น ให้เลือก โปะสินเชื่อ
แต่ถ้าคุณต้องการความชัดเจนและวางแผนเงินประจำเดือนง่าย ๆ ให้เลือก ทยอยจ่าย
จ่ายไม่ครบค่างวด มีผลเสียไหม
หลายคนอาจเคยเจอสถานการณ์เงินไม่พอจ่ายค่างวดเต็มจำนวนในบางเดือน หรือมีเหตุฉุกเฉินทำให้จ่ายไม่ครบ คำตอบคือ… มีผลเสียแน่นอน!
ผลเสียจากการจ่ายค่างวดไม่ครบ
- โดนปรับค่าปรับ (ค่าเบี้ยปรับ) สินเชื่อส่วนใหญ่จะมีค่าปรับสำหรับการจ่ายล่าช้าหรือจ่ายไม่ครบ ซึ่งทำให้ต้นทุนการกู้เพิ่มขึ้น
- ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เมื่อจ่ายไม่ครบ ดอกเบี้ยจะถูกคิดบนยอดหนี้ที่ค้างอยู่ ทำให้ยอดหนี้รวมสูงขึ้น
- เสียประวัติทางการเงิน (เครดิตบูโร) การจ่ายไม่ครบ หรือล่าช้าเกิน 30 วัน จะส่งผลเสียต่อเครดิตบูโร ทำให้เวลาจะ กู้สินเชื่อ ครั้งต่อไปยากขึ้น หรือดอกเบี้ยสูงขึ้น
- เสี่ยงถูกยึดทรัพย์หรือถูกฟ้อง หากปล่อยให้ค้างชำระนาน ๆ สถาบันการเงินอาจดำเนินคดี หรือยึดทรัพย์ได้
- ความเครียดและปัญหาทางการเงินระยะยาว หนี้เพิ่มขึ้นเพราะค่าปรับและดอกเบี้ย ส่งผลให้จัดการการเงินได้ยาก
วิธีจัดการเมื่อจ่ายไม่ครบค่างวด
- รีบติดต่อสถาบันการเงินทันที แจ้งเหตุผลและขอคำปรึกษา บางแห่งอาจมีโปรแกรมช่วยเหลือ เช่น ผ่อนปรน หรือขยายเวลาชำระ
- วางแผนงบประมาณใหม่ เพื่อจัดลำดับความสำคัญการจ่ายหนี้
- พิจารณาปรับโครงสร้างหนี้ เช่น รวมหนี้ หรือรีไฟแนนซ์ เพื่อให้ภาระการจ่ายลดลง
- หากจำเป็น อาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เพื่อได้คำแนะนำเฉพาะบุคคล
ควรทำอย่างไรเมื่อกู้สินเชื่อ
- ศึกษาข้อมูลสินเชื่อให้ละเอียด อ่านสัญญาและเงื่อนไขการจ่ายให้เข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องค่าปรับและการโปะก่อน
- วางแผนการเงินให้รัดกุม คำนวณรายรับรายจ่ายให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถจ่ายค่างวดได้ตรงเวลา
- ถ้ามีเงินเหลือให้โปะสินเชื่อ จะช่วยลดดอกเบี้ยและปิดหนี้ได้เร็วขึ้น
- หากมีปัญหาจ่ายค่างวด อย่ารอช้า รีบติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อขอความช่วยเหลือ
บทส่งท้าย บริการมันนี่ฮับ ช่วยให้เรื่องกู้สินเชื่อเป็นเรื่องง่ายขึ้น
ถ้าคุณกำลังมองหาแหล่ง กู้สินเชื่อที่น่าเชื่อถือ พร้อมคำแนะนำการจัดการหนี้อย่างมืออาชีพ มันนี่ฮับ คือคำตอบ
บริการของมันนี่ฮับไม่ใช่แค่ช่วยให้คุณกู้เงินได้ แต่ยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาเรื่องการวางแผนการเงิน การโปะสินเชื่อ และวิธีจัดการกับปัญหาการจ่ายค่างวดไม่ครบอย่างถูกต้อง ไม่ว่าคุณจะอยากรู้ว่าควรโปะสินเชื่อแบบไหน หรือกำลังเจอปัญหาจ่ายไม่ครบ มันนี่ฮับช่วยดูแลได้หมด เพื่อให้คุณกู้สินเชื่อได้อย่างสบายใจและมั่นคง ถ้าคุณอยากเข้าใจเรื่อง กู้สินเชื่อมากขึ้น หรือมีคำถามเกี่ยวกับการจัดการหนี้ ไม่ต้องลังเลที่จะปรึกษา มันนี่ฮับ บริการดี คำแนะนำตรงจุด พร้อมช่วยให้การเงินของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้นจริง ๆ