ตัดสินใจให้รอบคอบก่อนกู้! กู้เงินอย่างไรให้ไม่มีค้างจ่าย

17 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ตัดสินใจให้รอบคอบก่อนกู้! กู้เงินอย่างไรให้ไม่มีค้างจ่าย

    การกู้เงินในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเหมือนเมื่อก่อน เพราะด้วยระบบการขอกู้ที่สะดวกขึ้น บริการทางการเงินที่เข้าถึงง่าย และการเปิดกว้างของสถาบันการเงินหลายแห่ง ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถ “กู้สินเชื่อ” ได้ง่ายขึ้น ทั้งเพื่อหมุนเวียนธุรกิจ เสริมสภาพคล่องส่วนตัว หรือเพื่อเป้าหมายบางอย่างในชีวิต
    แต่แม้จะดูเหมือนง่ายแค่กดมือถือไม่กี่คลิก ก็อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจไปแบบไม่มีแผน! เพราะถ้าไม่วางแผนให้ดี ปลายทางอาจกลายเป็นภาระหนี้ที่ค้างจ่าย เสียเครดิต หรือโดนทวงแบบไม่ทันตั้งตัว
    ในบทความนี้เราจะชวนคุณมา “เตรียมตัวก่อนกู้” และรู้วิธีกู้เงินอย่างชาญฉลาด เพื่อให้คุณมั่นใจว่าเมื่อเลือกกู้แล้ว จะไม่สะดุดระหว่างทาง


กู้เงินได้ แต่ต้องรู้ “กู้ไปเพื่ออะไร”

    ก่อนจะตัดสินใจกู้สินเชื่อ คำถามแรกที่ควรถามตัวเองให้ชัดคือ “กู้เงินไปเพื่ออะไร?”

  • บางคนกู้เพื่อใช้จ่ายเร่งด่วน เช่น ค่ารักษาพยาบาล ซ่อมบ้าน หรือค่าเทอมลูก ซึ่งเป็นความจำเป็นที่อาจเลี่ยงไม่ได้
  • บางคนกู้เพื่อขยายธุรกิจ ซื้ออุปกรณ์ใหม่ เพิ่มสต๊อกสินค้า หรือเป็นทุนต่อยอด ซึ่งถือว่าเป็นการกู้ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้

    ถ้ารู้จุดประสงค์ชัด จะช่วยให้คุณประเมินได้ว่าจำนวนเงินที่ควรกู้เท่าไหร่ และควรเลือกสินเชื่อประเภทไหน ไม่ใช่กู้ไปแล้วเหลือเยอะ ใช้ฟุ่มเฟือย แล้วกลายเป็นภาระโดยไม่รู้ตัว


ไม่ใช่แค่ “ได้กู้” แต่ต้องรู้ “จะจ่ายไหวไหม”

    เวลาที่เราเห็นยอดวงเงินอนุมัติผ่านง่าย หลายคนมักเผลอใจไปกับคำว่า “ได้เต็มวงเงิน!” ทั้งที่จริง การกู้เงินไม่ควรดูแค่ตัวเลขอนุมัติ แต่ควรดู “ภาระการผ่อนชำระ” ที่ตามมาด้วย ลองคำนวณแบบง่าย ๆ

  • รายได้สุทธิคุณต่อเดือนคือเท่าไหร่?
  • มีค่าใช้จ่ายประจำอยู่แล้วเท่าไหร่?
  • ผ่อนไหวหรือไม่ถ้ามีภาระหนี้เพิ่มอีก?

    โดยทั่วไปแล้ว ภาระหนี้ทั้งหมด (รวมบ้าน รถ และสินเชื่อ) ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้สุทธิ ถ้ามากกว่านั้น จะเสี่ยงต่อการขาดสภาพคล่อง และมีโอกาสค้างชำระสูง


เช็กเงื่อนไขก่อนเซ็น กู้สินเชื่อไม่ใช่แค่ดอกเบี้ยถูก

    หลายคนมักเลือกสินเชื่อที่ “ดอกเบี้ยถูกสุด” โดยลืมดูเงื่อนไขอื่น ๆ ที่อาจมีผลมากกว่า เช่น

  • มีค่าธรรมเนียมแฝงไหม?
  • หากจ่ายล่าช้ามีค่าปรับหรือดอกเบี้ยเพิ่มเท่าไหร่?
  • ผ่อนขั้นต่ำได้ไหม หรือเป็นยอดตายตัว?   

    ตัวอย่างเช่น คุณ A กู้สินเชื่อส่วนบุคคล 100,000 บาท จากธนาคารแห่งหนึ่งที่โฆษณาว่าดอกเบี้ยต่ำแค่ 8% ต่อปี แต่ในสัญญามีค่าธรรมเนียมดำเนินการ 3% และค่าทำสัญญาอีก 2% สุดท้ายเงินที่ได้รับจริงเหลือเพียง 95,000 บาท แต่ต้องจ่ายคืนตามยอด 100,000 บาท
    ดังนั้น ก่อนกู้ อย่าดูแค่ตัวเลขที่โฆษณา แต่ควรอ่านเงื่อนไขให้ครบทุกบรรทัด


กู้เงินฉลาดต้องเปรียบเทียบหลายเจ้า

    แม้จะมีแอปหรือเว็บไซต์ให้กู้สินเชื่อได้สะดวกเพียงปลายนิ้ว แต่การรีบกู้เจ้าแรกที่เจออาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด คุณควรเปรียบเทียบอย่างน้อย 2-3 แห่งก่อนตัดสินใจ โดยดูทั้งอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขการชำระ ระยะเวลาผ่อน และความยืดหยุ่นในกรณีฉุกเฉิน เช่น ขอพักชำระหนี้ชั่วคราว หรือขอเปลี่ยนแปลงวันชำระ การเปรียบเทียบนี้อาจดูเหมือนยุ่งยากในตอนแรก แต่เชื่อเถอะว่า คุ้มในระยะยาว และช่วยลดความเสี่ยงที่จะค้างชำระได้จริง


มีวินัยในการจ่าย อย่าให้ “พลาดงวดแรก”

    สิ่งหนึ่งที่ควรรู้คือ การผ่อนชำระงวดแรกคือ “ตัววัดเครดิต” ที่ธนาคารหรือแหล่งปล่อยกู้ใช้ดูความน่าเชื่อถือของคุณ หากพลาดงวดแรก หรือจ่ายช้าเกินไป จะส่งผลกับประวัติเครดิตทันที และอาจทำให้อนาคตกู้ยากขึ้นวิธีป้องกันคือ

  • ตั้งเตือนล่วงหน้าก่อนวันครบกำหนด
  • จัดสรรเงินก้อนสำหรับผ่อนชำระไว้ต่างหากจากเงินใช้จ่ายประจำวัน
  • ถ้าเป็นไปได้ ใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติเพื่อป้องกันลืม
  • ค้างจ่ายแล้วไม่เงียบ ต้องรีบหาทางพูดคุย

     ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ตกงาน ชักหน้าไม่ถึงหลัง หรือมีเหตุฉุกเฉินที่ทำให้ผ่อนไม่ไหว อย่าเงียบและปล่อยให้ค้างจ่ายยาว ติดต่อเจ้าหนี้หรือธนาคารทันทีเพื่อแจ้งสถานการณ์ และขอคำปรึกษาว่ามีทางเลือกอื่นไหม เช่น ขอพักหนี้ชั่วคราว ขอลดค่างวด หรือขอปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ การเงียบไม่ช่วยให้ปัญหาหายไป แถมอาจโดนดอกเบี้ยปรับสะสม จนกลายเป็นหนี้พอกหางหมูในภายหลัง


สรุปส่งท้าย กู้เงินอย่างมีสติ ชีวิตก็ไปต่อได้แบบไม่สะดุด

    การ “กู้เงิน” ไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลัว หากคุณรู้ว่าเงินก้อนนี้จะช่วยพาคุณไปถึงเป้าหมายได้จริง แต่สิ่งที่น่ากลัวคือการกู้แบบไม่มีแผน กู้เพราะอยากได้ตอนนี้ โดยไม่มองให้รอบถึง “พรุ่งนี้จะจ่ายยังไง?” ก่อนจะเซ็นชื่อในเอกสารหรือกดยืนยันกู้ผ่านแอป ลองใช้เวลาสั้น ๆ ถามตัวเองแบบตรงไปตรงมา

  • เรากู้ไปทำอะไรแน่ ๆ? แค่ใช้จ่าย หรือมีเป้าหมายชัด เช่น ขยายกิจการหรือเพิ่มรายได้?
  • เราจ่ายคืนไหวไหม? ถ้ามีหนี้เพิ่ม จะกระทบกับรายจ่ายประจำ หรือเงินเก็บเรามั้ย?
  • มีทางเลือกอื่นไหมที่ไม่ต้องกู้เลย? เช่น รออีกสักหน่อย ออมเพิ่ม หรือหารายได้เสริม
  • ถ้าต้องกู้จริง ๆ แล้ว จะวางแผนจ่ายยังไงไม่ให้ค้าง? มีระบบเตือน มีเงินสำรอง หรือเลือกสินเชื่อที่ยืดหยุ่นได้หรือเปล่า?
    การคิดให้รอบคอบแบบนี้ ไม่ได้ทำให้คุณเสียเวลา แต่ช่วยให้คุณไม่เสียใจภายหลังต่างหาก ถ้าคุณมีเป้าหมาย มีแผน มีวินัยในการจ่าย แล้วเดินหน้ากู้แบบฉลาด ๆ การกู้สินเชื่อจะไม่ใช่เรื่องเสี่ยงเลย มันจะกลายเป็นเครื่องมือทางการเงินที่พาคุณเติบโตเร็วขึ้น ชีวิตทางการเงินแข็งแรงขึ้น และที่สำคัญ  คุณจะ “ไม่ต้องวิ่งหนีหนี้” ในวันข้างหน้า
จำไว้เสมอ กู้ได้ แต่อย่ากู้จนเกินตัว และอย่ากู้จนหลงลืมอนาคต
    ลองหยุดคิดนิด วางแผนให้ชัด แล้วคุณจะค้นพบว่า “กู้เงิน” ก็เหมือนการวางหมากที่ดี ถ้าเดินเกมถูกจังหวะ คุณจะเดินหน้าได้ไกลและมั่นคงกว่าที่เคย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้