ใช้เงินในอนาคตไปล่วงหน้าโดยลืมนึกไปว่าจะเสียดอกเบี้ยเท่าไร

27 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ใช้เงินในอนาคตไปล่วงหน้าโดยลืมนึกไปว่าจะเสียดอกเบี้ยเท่าไร

   ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็อยากมีชีวิตดี ๆ อยากได้ของที่อยากได้ อยากเที่ยว อยากแต่งบ้าน อยากมีรถ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมีเงินก้อนพร้อมจ่ายทันที หลายคนจึงหันไปใช้ “เงินในอนาคต” ผ่านการกู้ยืมบ้าง ผ่อนสินค้าบ้าง หรือรูดบัตรเครดิตไปก่อนค่อยว่ากันทีหลัง ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร… ถ้ามีการวางแผนที่ดี! แต่ปัญหาคือ หลายคน ลืมนึกไปว่าการใช้เงินในอนาคตจะต้องแลกมาด้วย "ดอกเบี้ยเงินกู้" ที่อาจบานปลายได้แบบไม่รู้ตัว


เข้าใจง่าย ๆ ว่า “เงินในอนาคต” คืออะไร?

    เงินในอนาคตก็คือ เงินที่เรา “ยังไม่มี” แต่ดึงมาใช้ก่อนด้วยการกู้ ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล, ผ่อนสินค้า, หรือแม้แต่ สินเชื่อรถยนต์ ล้วนแล้วแต่เป็นการใช้เงินในอนาคตแทบทั้งสิ้น การใช้เงินแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป ถ้าเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และเข้าใจดีว่าจะต้อง “จ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ย” ภายในเงื่อนไขที่ตกลงไว้


รู้ไหม? ดอกเบี้ยเงินกู้คือค่าตอบแทนที่อาจแพงกว่าที่คิด

     ดอกเบี้ยเงินกู้ คือ ค่าธรรมเนียมหรือค่าตอบแทน ที่ผู้ให้กู้เรียกเก็บจากผู้กู้ เป็นตัวเลขที่บอกว่า เราจะต้องจ่ายเพิ่มจากยอดที่ยืมไปเท่าไหร่ เช่น

  • ถ้าคุณกู้เงิน 100,000 บาท
  • ดอกเบี้ยแบบ Flat rate 18% ต่อปี
  • เท่ากับคุณต้องจ่ายดอกเบี้ย 18,000 บาท ต่อปี
  • รวมแล้วต้องจ่ายคืน 118,000 บาท (ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่น ๆ)
         แต่หลายคนเห็นยอดผ่อนต่อเดือนแค่ “เบา ๆ” เช่น 2,000–3,000 บาทต่อเดือน ก็คิดว่าไหวแล้วกดตกลงทันที โดยไม่ได้สนใจเลยว่าจริง ๆ แล้วดอกเบี้ยที่จ่ายไปนั้นสูงแค่ไหน และสุดท้ายกลายเป็นหนี้บานปลาย

ตัวอย่างง่าย ๆ : ผ่อนของชิ้นเล็ก ๆ ดอกเบี้ยก็บานได้
สมมุติว่า

  • คุณซื้อโทรศัพท์เครื่องละ 25,000 บาท ด้วยบัตรเครดิต
  • เลือกผ่อน 0% ไม่ได้ จึงต้องผ่อนแบบปกติ ดอกเบี้ย 20% ต่อปี
  • ผ่อน 12 เดือน เดือนละ 2,500 บาทโดยประมาณ
       ฟังดูไม่น่ากลัวใช่ไหม? แต่รู้ไหมว่า คุณจะเสียดอกเบี้ยประมาณ 2,600 บาท เท่ากับจ่ายรวม 27,600 บาท แค่โทรศัพท์เครื่องเดียว จ่ายเพิ่มตั้ง 2,600 บาท แล้วถ้ามีหนี้หลายก้อนล่ะ? ลองจินตนาการดูว่าจะบานขนาดไหน


แล้วเราจะจัดการกับดอกเบี้ยเงินกู้ยังไงดี?

  1. วางแผนก่อนกู้ ถามตัวเองว่า “จำเป็นไหม?” กับสิ่งที่กำลังจะซื้อ
  2. เช็กดอกเบี้ยให้ดี  อย่าให้คำว่า “อนุมัติไว” มาหลอกเราได้ง่าย ๆ
  3. เปรียบเทียบหลายเจ้า  บางที่อาจมีโปรดอกเบี้ยต่ำกว่า หรือมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่า
  4. โปะเมื่อมีเงิน  การโปะเงินต้นจะช่วยลดดอกเบี้ยรวมได้มาก
  5. เลือกใช้บริการที่น่าเชื่อถือ  อย่างเช่น มันนี่ฮับ ที่ให้สินเชื่อแบบโปร่งใส เข้าใจง่าย ไม่หมกเม็ด


อย่าลืมว่าดอกเบี้ยคือ "ราคาของความเร่งรีบ"

    การใช้เงินในอนาคตเป็นเรื่องปกติในยุคนี้ แต่จะดีกว่ามากถ้าเรารู้ว่าเรากำลังจะต้อง "จ่ายเพิ่มเท่าไร" เพื่อให้ได้สิ่งที่อยากได้เร็วขึ้น ดอกเบี้ยเงินกู้ จึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ไม่ใช่แค่ยอดผ่อนต่อเดือน แต่คือ "ต้นทุนชีวิต" ที่คุณต้องแบกรับในอนาคต แต่ถ้าเรื่องจำเป็นที่ต้องใช้จริง ๆ ต้องกู้แบบมีแผนกับ "มันนี่ฮับ"หากคุณกำลังมองหาแหล่งเงินกู้ที่ปลอดภัย ดอกเบี้ยไม่แรง และเข้าใจง่าย ขอแนะนำ มันนี่ฮับ (MoneyHub)บริการสินเชื่อออนไลน์ที่ให้คุณสามารถ เปรียบเทียบสินเชื่อจากหลายสถาบันได้ในที่เดียว
มีทีมงานคอยให้คำปรึกษา ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อรถยนต์, หรือ รีไฟแนนซ์ ก็มีให้เลือกครบจบในที่เดียวเพราะการกู้แบบมีสติ คือการวางแผนอนาคตอย่างมีคุณภาพ ที่พร้อมให้บริการคุณตลอด 24 ชั่วโมงสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line ID : @moneyhub

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้