833 จำนวนผู้เข้าชม |
ใครก็ตามที่เริ่มรู้สึกว่าอึดอัดกับการหาเงินมาชำระคืนสินเชื่อออนไลน์หรือเริ่มชำระหนี้สินล่าช้ากว่ากำหนดหรือเริ่มผิดนัดชำระหนี้หรือแม้กระทั่งที่เริ่มไม่สนใจกับตารางการชำระหนี้ที่มีอยู่ต้องเริ่มต้นติดต่อสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ทันที อย่าตัดสายโทรศัพท์ หรือหนีหายไปจากเจ้าหนี้เพราะนั่นอาจยิ่งทำให้หนี้ที่มีปัญหากลายเป็นปัญหาที่ใหญ่โตมากขึ้น ในทางตรงกันข้ามต้องกล้าเผชิญหน้ากับธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้เพื่อขอเจรจาต่อรองการชำระหนี้โดย พยายามอย่าให้เป็นหนี้เสียจริงๆแล้วธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินแต่ละแห่ง มักมีแนวทางและเงื่อนไขในการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบปัญหาทางการเงินหลากหลายรูปแบบอยู่แล้ว เช่น การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ การพักชำระหนี้ชั่วคราว ยืดระยะเวลาการชำระหนี้, การปรับลดอัตราดอกเบี้ย,การปรับลดเงินงวดผ่อนชำระคืน หรืออื่น ๆ ขึ้นอยู่กับการเจรจาร่วมกัน
ใครที่กำลังมีพฤติกรรมแบบนี้แสดงว่าเราเริ่มมีปัญหาทางการเงินเข้าแล้ว แนะนำให้รีบหาทางแก้ก่อนจะสายเกินไป และเป็นหนี้เยอะ จนหาทางออกไม่ได้ในที่สุด
หลายๆ คนเมื่อเริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหวแล้วมักจะเกิดความรู้สึกว่ามืดแปดด้าน หันไปทางไหนก็เจอแต่ทางตัน บางคนต้องหันไปขอใช้บริการกูรูตามสังคมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งก็จะมีคำแนะนำที่ดี คือทำให้หาทางออกได้ แต่หลายๆ ครั้งก็จะมีคำแนะนำที่ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ไปกว่าเดิม เพราะสถานการณ์ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้น หากจ่ายหนี้ไม่ไหวควรทำอย่างไรดี วันนี้จะขอพาผู้กู้ที่จ่ายหนี้ไม่ไหวไปหาทางออกร่วมกัน ดังนี้
เปิดใจเข้ามาคุยกับธนาคารที่เป็นหนี้ โดยเล่าสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ ห้ามปกปิดข้อมูล เพื่อที่จะได้หาทางออกร่วมกัน เช่น
รีไฟแนนซ์หนี้ทั้งหมดเป็นเงินกู้ก้อนเดียว เพื่อจะได้ผ่อนชำระจากเงินกู้หลายๆก้อน ให้เป็นเงินก้อนเดียว และจะได้ผ่อนชำระทางเดียว จะช่วยลดภาระการผ่อนหนี้ลงได้มาก หรือแปลงหนี้บัตรเครดิต หรือเงินกู้หมุนเวียน เป็นเงินกู้ แล้วผ่อนชำระเป็นรายงวดแทน หรือ
ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เช่น ขอปรับลดเงื่อนไขการผ่อน หรือขอจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยอย่างเดียวช่วงเวลาหนึ่ง เป็นต้น เพื่อจะได้มีเวลาปรับตัวในช่วงที่เงินขาดมือหรือช็อตเงิน
ปรับลดค่าใช้จ่ายหรือหารายได้เพิ่ม เพื่อให้มีกระแสเงินเข้ามาหมุนเวียนในกิจการ หรือเพื่อนำมาใช้จ่ายในครอบครัว เช่น