เช็คดอกเบี้ยสินเชื่อแต่ละประเภทให้ดี ก่อนตัดสินใจกู้

25 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เช็คดอกเบี้ยสินเชื่อแต่ละประเภทให้ดี ก่อนตัดสินใจกู้

   การกู้เงินไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากเรารู้เท่าทันตัวเลขสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการกู้ยืม ซึ่ง “ดอกเบี้ยสินเชื่อ” ถือเป็นหัวใจหลักที่ผู้กู้ทุกคนต้องให้ความสำคัญ เพราะมันคือปัจจัยที่จะกำหนดว่าเราจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเท่าไหร่ในอนาคต และส่งผลต่อภาระรายเดือนมากกว่าที่คิด การเข้าใจดอกเบี้ยอย่างลึกซึ้ง ทำให้ตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น ลดโอกาสถูกเอาเปรียบ และยังช่วยวางแผนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
   ในยุคที่ธนาคารและสถาบันการเงินมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย การเลือกไม่ดูรายละเอียดอาจทำให้ต้องจ่ายแพงกว่าคนอื่นเป็นปี ๆ ดังนั้นก่อนกดสมัครหรือเซ็นสัญญา ลองมาทำความเข้าใจดอกเบี้ยสินเชื่อแต่ละประเภทอย่างแบบชัด ๆ เพื่อวางแผนได้แม่นกว่าเดิม

ทำไมต้องเช็คดอกเบี้ยสินเชื่อให้ละเอียด?

   หลายคนเลือกสินเชื่อจาก “ยอดผ่อนต่อเดือน” หรือ “อนุมัติเร็ว” แต่ลืมมองตัวเลขดอกเบี้ยที่แท้จริง ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ยอดรวมสุดท้ายแพงขึ้นอย่างมหาศาล ยิ่งเป็นสินเชื่อระยะยาว เช่น กู้บ้านหรือกู้รถ ดอกเบี้ยเพียง 1–2% ที่ดูเหมือนน้อย อาจหมายถึงเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มหลักแสนถึงหลักล้านบาท

การเช็คดอกเบี้ยจึงไม่ใช่แค่ดูว่าถูกหรือแพง แต่คือการดูภาพรวมทั้งหมด เช่น

  • อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่หรือแบบลอยตัว
  • มีโปรโมชั่นปีแรก ลดดอกเบี้ยชั่วคราวหรือไม่
  • คิดแบบลดต้นลดดอก หรือคิดแบบ Flat Rate
  • มีค่าธรรมเนียมแฝงหรือเงื่อนไขที่ทำให้ดอกเบี้ยปรับเพิ่มไหม

หากรู้ทั้งหมดนี้ จะไม่มีคำว่ากู้ผิด หรือแบกรับหนี้แบบไม่ตั้งใจอีกต่อไป

ประเภทของดอกเบี้ยสินเชื่อที่ควรรู้

  1. ดอกเบี้ยสินเชื่อแบบ คงที่ (Fixed Rate)
       อัตราดอกเบี้ยจะเหมือนเดิมทุกเดือน ไม่มีการขึ้นลง ทำให้วางแผนค่าใช้จ่ายได้ง่าย และเหมาะกับคนที่ต้องการความมั่นคง เช่น สินเชื่อบ้านบางโครงการ หรือสินเชื่อส่วนบุคคล
    ข้อดี มั่นใจได้ว่าภาระต่อเดือนเท่าเดิม
    ข้อเสีย อาจไม่ถูกเท่าอัตราลอยตัวในบางช่วงเวลา
  2. ดอกเบี้ยสินเชื่อแบบ ลอยตัว (Floating Rate)
       ดอกเบี้ยจะเปลี่ยนแปลงไปตามอัตราตลาด เช่น MLR, MRR, หรือ MIBOR ดังนั้นค่างวดอาจปรับขึ้นลงได้ตลอด
    ข้อดี: หากดอกเบี้ยตลาดลดลง จะผ่อนเบาลงทันที
    ข้อเสีย: ไม่มีความแน่นอน หากตลาดปรับขึ้นก็ต้องจ่ายมากขึ้นตาม
    ใครที่เลือกดอกเบี้ยลอยตัว ควรมีเงินสำรองเผื่อความผันผวนของเศรษฐกิจด้วย
  3. ดอกเบี้ยสินเชื่อแบบ ลดต้นลดดอก
        ธนาคารจะคำนวณดอกเบี้ยจากยอดคงเหลือจริงในแต่ละเดือน ยิ่งจ่ายมาก ต้นลดเร็ว ดอกเบี้ยก็ลดตาม
    เหมาะกับ: สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ และสินเชื่อที่ต้องการผ่อนระยะยาว
    เทคนิคดี ๆ: หากโปะเพิ่มเมื่อมีเงินก้อน จะช่วยประหยัดดอกเบี้ยได้มาก
  4. ดอกเบี้ยสินเชื่อแบบ Flat Rate
       ดอกเบี้ยคิดเท่ากันทุกเดือนโดยยึดจากยอดเงินกู้ตั้งแต่วันแรก
    แม้จะดูเหมือนดอกเบี้ยน้อย แต่จริง ๆ แล้วอาจจ่ายมากกว่าภาระลดต้นลดดอก
    เหมาะกับ: สินเชื่อเช่าซื้อรถ สินเชื่อจำนำทะเบียน และสินเชื่อรายย่อยบางประเภท
    ข้อควรระวัง: ควรคำนวณอัตราดอกเบี้ยจริงก่อนตัดสินใจ


เปรียบเทียบดอกเบี้ยสินเชื่อแต่ละประเภทก่อนกู้

   การกู้เงินไม่ได้มีแบบเดียว การเช็คอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อของแต่ละประเภทจะทำให้เราเลือกได้เหมาะสมที่สุด

  1. สินเชื่อบ้าน

       ดอกเบี้ยเริ่มต้นถูกที่สุดในบรรดาสินเชื่อทั้งหมด แต่มีการเปลี่ยนแปลงตามรอบโปรโมชั่น เช่น
    ปีแรก–ปีที่สาม ดอกเบี้ยต่ำ
    หลังปีที่สาม ดอกเบี้ยปรับขึ้นตามตลาด
    เคล็ดลับ: รีไฟแนนซ์ทุก 3 ปี ช่วยประหยัดดอกเบี้ยได้เยอะมาก
  2. สินเชื่อรถ

       ส่วนใหญ่ใช้อัตรา Flat Rate ยิ่งผ่อนนาน ยอดรวมที่จ่ายยิ่งสูง
    ควรเปรียบเทียบดอกเบี้ยสินเชื่อกับเงินดาวน์ และระยะเวลาผ่อนควบคู่กัน อย่ามองแค่ค่างวดรายเดือนที่ดูเหมือนน้อย
  3. สินเชื่อส่วนบุคคล

       ดอกเบี้ยค่อนข้างสูงเพราะไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เหมาะสำหรับใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ควรดูดอกเบี้ยอย่างละเอียด ควรเลือกแบบลดต้นลดดอก เพื่อประหยัดในระยะยาว
  4. บัตรกดเงินสด

       ถ้าใช้ผิดอาจทำให้ดอกเบี้ยพุ่งสูงถึงรอบละเกือบ 30% ต่อปี ควรใช้เท่าที่จำเป็น และวางแผนปิดให้เร็วที่สุด

วิธีเช็คดอกเบี้ยสินเชื่ออย่างถูกต้องและปลอดภัย

  1. ดูอัตราดอกเบี้ยรวม (Effective Rate) ไม่ใช่แค่ดอกเบี้ยตัวเลขสวย แต่ต้องดูอัตราจริงที่คิดจากเงินต้นคงเหลือ เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าจ่ายเท่าไหร่จริง ๆ
  2. เช็คว่าเป็นอัตราคงที่ หรือลอยตัว เพราะทั้งสองแบบส่งผลต่อค่าใช้จ่ายระยะยาวแตกต่างกันมาก
  3. อ่านเงื่อนไขโปรโมชั่นอย่างละเอียด หลายสถาบันให้ดอกเบี้ยปีแรกถูกมาก แต่ปีต่อไปปรับเพิ่มสูงกว่าปกติ
  4. เปรียบเทียบหลายเจ้า พร้อมอ่านค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าปิดก่อนกำหนด ค่าประเมิน ค่าจัดไฟแนนซ์ เพราะบางครั้งดอกเบี้ยถูก แต่ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แพงกว่าที่คิด
  5. ใช้เครื่องคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อ เครื่องคำนวณช่วยประเมินยอดผ่อนต่อเดือนและยอดรวมที่ต้องจ่าย ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

เทคนิคลดดอกเบี้ยให้ประหยัดมากที่สุด

  • โปะเงินต้นทุกครั้งที่มีเงินก้อน ลดต้นเร็ว ดอกเบี้ยก็ลดลงแบบเห็นผลชัดเจน
  • รีไฟแนนซ์ทุก 2–3 ปี ได้ดอกเบี้ยถูกกว่าและช่วยลดภาระรายเดือน
  • เลือกจำนวนงวดผ่อนให้เหมาะกับรายได้ ผ่อนนานเกินไป ดอกเบี้ยโดยรวมจะสูงจนน่าตกใจ
  • รักษาเครดิตดี คะแนนเครดิตดีทำให้ขอดอกเบี้ยต่ำลงได้


สรุป เช็คดอกเบี้ยให้ละเอียดก่อนกู้ ช่วยประหยัดได้มากกว่าเดิม

   ดอกเบี้ยสินเชื่อคือสิ่งที่กำหนดต้นทุนในการกู้ทั้งหมด ยิ่งรู้ละเอียด ยิ่งมีโอกาสเลือกโปรที่เหมาะกับตัวเองที่สุด การไม่รีบร้อนตัดสินใจ และเปรียบเทียบข้อมูลหลายแห่งจะช่วยประหยัดเงินได้จำนวนมากในระยะยาว
   หากต้องการตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจากหลายสถาบันแบบง่าย ๆ โดยไม่เสียเวลาไล่เช็คทีละที่ การขอคำปรึกษาหรือเปรียบเทียบสินเชื่อผ่าน มันนี่ฮับ (MoneyHub) เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เลือกได้อย่างมั่นใจ ด้วยข้อมูลครบถ้วน ใช้งานง่าย และมีผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำ ทางเลือกที่เหมาะกับรายได้ ไลฟ์สไตล์ และเป้าหมายทางการเงินของคุณอย่างแท้จริง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้