55 จำนวนผู้เข้าชม |
ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน แต่รายได้ของหลายคนกลับสวนทาง “เงินไม่พอใช้” กลายเป็นปัญหาที่คนไทยจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญ หลายคนอาจเคยหันไปพึ่งเงินกู้นอกระบบที่ทั้งเสี่ยงและดอกเบี้ยสูงลิ่วโดยไม่รู้ว่ามีอีกทางเลือกหนึ่งที่ปลอดภัยและอยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย นั่นก็คือ สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์
สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ (Nano Finance) คือ สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ โดยเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ไม่มีรายได้ประจำที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของธนาคารปกติ ได้มีโอกาสกู้เงินมาใช้ในการประกอบธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ค้าขายออนไลน์ เปิดร้านอาหาร ฯลฯ ซึ่งช่วยให้หลายครอบครัวเริ่มต้นชีวิตใหม่ หรือประคับประคองธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้
ข้อดีที่ทำให้ สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ น่าสนใจสำหรับผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจหรือประกอบอาชีพอิสระคือ “ไม่ต้องมีหลักประกัน” ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน รถยนต์ หรือผู้ค้ำประกัน ทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างสะดวกขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทที่ให้บริการนาโนไฟแนนซ์ยังได้รับการกำกับดูแลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งแตกต่างจากเงินกู้นอกระบบที่ไม่มีการควบคุมเรื่องดอกเบี้ยหรือเงื่อนไขสัญญาแต่อย่างใด ทำให้ผู้กู้มั่นใจได้ว่า จะได้รับการปกป้องตามกฎหมาย และไม่ถูกเอาเปรียบ
คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ถ้ารายได้น้อยมาก จะกู้ได้ไหม คำตอบคือ ได้ เพราะวัตถุประสงค์ของสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์คือเพื่อช่วยเหลือคนที่ไม่มีรายได้ประจำ หรือมีรายได้ไม่แน่นอน เช่น คนขายของออนไลน์ พ่อค้าแม่ค้า หรือคนที่รับงานจ้างเป็นครั้งคราว แม้ไม่มีเงินเดือนประจำ ก็สามารถใช้เอกสารแสดงรายได้จากการประกอบอาชีพ เช่น รูปถ่ายร้านค้า สลิปเงินเข้า-ออกในบัญชี หรือแม้แต่แคปแชทการขายของออนไลน์มาใช้ในการพิจารณาได้
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ให้บริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์มักกำหนดรายได้ขั้นต่ำไม่ตายตัว แต่ส่วนใหญ่อยู่ที่ ประมาณ 6,000 – 10,000 บาทต่อเดือน เพื่อให้แน่ใจว่าผู้กู้สามารถชำระหนี้ได้อย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น คนที่มีอาชีพอิสระทุกประเภทที่มีรายได้พอประมาณก็มีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อนี้ไม่ยากเลย
ตามกฎหมายที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ อัตราดอกเบี้ยของ สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์จะไม่เกิน 36% ต่อปี หรือคิดเป็นประมาณ 3% ต่อเดือน (รวมค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แล้ว)
แม้จะดูว่าสูงกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลทั่วไป (ซึ่งมักอยู่ที่ 18-28%) แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่าการกู้นอกระบบที่บางรายคิดดอกเบี้ยมากกว่า 10% ต่อเดือนเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการกำหนดให้ชำระคืนแบบลดต้นลดดอก ทำให้สามารถลดภาระหนี้ได้เร็วขึ้นหากผู้กู้สามารถโปะเงินคืนได้มากกว่าขั้นต่ำที่กำหนด
แม้กระทั่งคนที่มีเครดิตไม่ดีในอดีต แต่แสดงให้เห็นว่ามีรายได้จริงและมีวินัยทางการเงิน ก็อาจได้รับการอนุมัติสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์เช่นกัน เพราะผู้ให้บริการมักเน้นดู ความสามารถในการชำระหนี้ และ วัตถุประสงค์ของการกู้เงิน เป็นหลัก
แม้ว่าเงื่อนไขการกู้จะไม่ซับซ้อนเท่าสินเชื่อของธนาคารทั่วไป แต่การสมัคร สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ก็ต้องมีเอกสารบางอย่างเพื่อให้ผู้ปล่อยกู้พิจารณา ได้แก่
ขั้นตอนการสมัครมักไม่ซับซ้อน ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการพิจารณา และบางเจ้าให้สมัครผ่านแอปพลิเคชันหรือออนไลน์ได้ด้วย
แม้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่านอกระบบ แต่ผู้กู้ก็ต้องมีวินัยในการชำระเงินคืน เพราะหากผิดนัดชำระหรือชำระล่าช้า อาจเสียเครดิตและถูกคิดค่าปรับเพิ่มเติมได้
อีกเรื่องที่ต้องระวังคือ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้กู้เป็นบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงมิจฉาชีพที่แอบอ้างปล่อยสินเชื่อ แล้วหลอกเก็บค่าธรรมเนียมล่วงหน้าหรือขอข้อมูลส่วนตัว
แม้ว่าทั้งสองรูปแบบจะเป็นสินเชื่อรายย่อยที่ใช้ประกอบอาชีพหรือใช้ส่วนตัวได้ แต่สิ่งที่ทำให้ สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์แตกต่างคือ
ถ้าคุณเป็นคนที่มีอาชีพอิสระ รายได้ไม่แน่นอน หรือเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจเล็ก ๆ แล้วต้องการเงินทุนหมุนเวียนอย่างเร่งด่วนโดยไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์คือตัวช่วยที่ออกแบบมาสำหรับคุณโดยเฉพาะ อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลและเลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือก่อนตัดสินใจ สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ อาจเป็นคำตอบแรกที่คุณไม่ควรมองข้ามมันนี่ฮับ สินเชื่อออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ พร้อมเงื่อนไขที่โปร่งใส สมัครออนไลน์ง่ายในไม่กี่ขั้นตอน ไม่ยุ่งยากไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา สมัครได้ 24 ชม. หากสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line ID : @moneyhub