เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับดอกเบี้ยเงินกู้ตามกฎหมาย

35 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับดอกเบี้ยเงินกู้ตามกฎหมาย

   การกู้ยืมเงินในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นจากธนาคาร สหกรณ์ หรือแม้แต่บุคคลทั่วไป มักจะมีคำหนึ่งที่เราคุ้นหูเสมอ นั่นก็คือ “ดอกเบี้ยเงินกู้” ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอ แต่กลับเป็นเรื่องที่หลายคนยังเข้าใจผิด หรือไม่รู้ถึงข้อกฎหมายที่ควรรู้เอาไว้ หากไม่เข้าใจอาจกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยไม่รู้ตัว บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักดอกเบี้ยเงินกู้ในทุกมิติแบบเข้าใจง่าย พร้อมยกตัวอย่างชัด ๆ ให้คุณเห็นภาพและป้องกันตัวได้


ดอกเบี้ยเงินกู้ คืออะไร?

    ดอกเบี้ยเงินกู้ คือ ค่าตอบแทนที่ผู้ให้กู้เรียกเก็บจากผู้กู้ โดยคิดจากจำนวนเงินที่กู้ไป และระยะเวลาที่ใช้เงินก้อนนั้น ซึ่งจะถูกกำหนดเป็น “อัตราร้อยละต่อปี” หรือที่เรียกว่า อัตราดอกเบี้ยต่อปี เช่น กู้เงิน 10,000 บาท ดอกเบี้ย 15% ต่อปี หมายความว่าหากยังไม่ชำระเงินต้นเลย ผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยปีละ 1,500 บาท


การคิดดอกเบี้ยเงินกู้สามารถทำได้หลายวิธี เช่น
- ดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate)
- ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate)
- ดอกเบี้ยตามงวดที่ชำระ (Simple Interest)

การเลือกใช้วิธีไหนขึ้นอยู่กับข้อตกลงและลักษณะของสัญญากู้เงินนั้น ๆ

ดอกเบี้ยเงินกู้ตามกฎหมาย กำหนดไว้อย่างไร?

    ในประเทศไทย มีกฎหมายรองรับเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบกัน โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นการกู้เงินนอกระบบ หรือสัญญาระหว่างบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 654 และมาตรา 658 กำหนดว่า

  • หากไม่มีการกำหนดดอกเบี้ยไว้ในสัญญา อัตราดอกเบี้ยที่สามารถเรียกได้ตามกฎหมายคือ ไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี (0.416% ต่อเดือน)

 

ดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคาร กับดอกเบี้ยนอกระบบ ต่างกันอย่างไร?

  1. ดอกเบี้ยจากธนาคาร
    - อยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
    - ดอกเบี้ยเงินกู้จะมีเพดานสูงสุดที่อนุญาต เช่น สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ดอกเบี้ยไม่เกิน 33% ต่อปี หรือสูงสุด 2.75% ต่อเดือน
    - มีการเปิดเผยข้อมูลชัดเจนในเอกสารสินเชื่อ
  2. ดอกเบี้ยจากเงินกู้นอกระบบ
    - มักไม่มีเอกสาร หรือมีสัญญาไม่เป็นทางการ
    - ดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมาย เช่น บางรายคิด 20-30% ต่อเดือน
    - ผู้กู้มีความเสี่ยงทั้งด้านกฎหมาย และความปลอดภัยจากการทวงหนี้แบบผิดกฎหมาย

 

หากถูกคิดดอกเบี้ยเงินกู้เกินกฎหมาย ทำอย่างไร?

   หากคุณหรือคนรอบตัวถูกคิดดอกเบี้ยเงินกู้สูงเกินที่กฎหมายกำหนด มีวิธีปกป้องตัวเองดังนี้

  1. เก็บหลักฐานไว้ให้ครบ เช่น ข้อความสนทนา สัญญาเงินกู้ ใบเสร็จการชำระเงิน
  2. ร้องเรียนต่อหน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมบังคับคดี, หรือศูนย์ดำรงธรรม
  3. ยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อให้พิจารณาและคุ้มครองสิทธิของผู้กู้
        ในหลายกรณี ศาลจะตัดสินให้ดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนที่เกินจาก 15% เป็นโมฆะ และผู้ให้กู้อาจไม่ได้รับเงินดอกเบี้ยเลย

 

ข้อควรรู้ก่อนเซ็นสัญญาเงินกู้

    ก่อนจะกู้เงินจากใคร ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร สหกรณ์ หรือบุคคลทั่วไป ควรตรวจสอบและระวังเรื่องต่อไปนี้

  • อ่านรายละเอียดของ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ให้ชัดเจน
  • อย่าลงนามในเอกสารที่ไม่เข้าใจ
  • หลีกเลี่ยงการกู้เงินจากแหล่งที่ไม่เปิดเผยตัวตนชัดเจน
  • เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายแหล่งก่อนตัดสินใจกู้
  • ขอสำเนาสัญญาไว้ทุกครั้ง
    ดอกเบี้ยเงินกู้เป็นเรื่องที่ทุกคนควรเข้าใจ เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดว่าการกู้ยืมนั้นจะเป็นธรรม หรือไม่เป็นธรรม การรู้ว่ากฎหมายกำหนดเพดานไว้ที่เท่าไหร่ จะช่วยให้คุณไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ปล่อยกู้ที่คิดดอกเบี้ยเกินกฎหมาย การตรวจสอบสัญญาให้ดี ตั้งแต่ก่อนเซ็นชื่อ จะช่วยป้องกันปัญหาทางกฎหมายในอนาคต อย่าลืมว่า “ความรู้เรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ ไม่ใช่แค่เรื่องของนักกฎหมาย แต่เป็นเรื่องของคนทุกคนที่มีสิทธิ์และเสียงในการปกป้องตนเอง”

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้